วิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ําแบบตรงจุด

สาเหตุ การวินิจฉัย สกินแคร์-หัตถการแนะนํา

🐼 มาถึงปัญหาที่คนถามกันมาเยอะมากตั้งแต่เปิดเพจ “ใต้ตาดำคล้ำ”

ต้องบอกว่าเปาก็เป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยใต้ตาคล้ำเหมือนกัน สรรหาทางแก้มาแล้วหลายวิธี ใช้สกินแคร์ อายครีมมาหมดตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหมื่น หมดไปเยอะ!

นี่เลยอยากเอาความเข้าใจทั้งหมดที่ศึกษามาย่อยให้ทุกคนอ่านกัน เพราะนี่คิดว่าปัญหาใต้ตามันเป็นอะไรที่คนเข้าใจผิดเยอะ

เวลาพูดถึงใต้ตาดำ คนส่วนใหญ่จะคิดว่าต้องใช้สกินแคร์หรืออายครีมที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งไปจัดการเม็ดสี ผิวใต้ตาจะได้หายดำคล้ำ แต่จริงๆ การที่ขอบตาดำคล้ำ มันมีสาเหตุมาจากหลายอย่าง ไม่ใช่แค่เม็ดสีอย่างเดียว

ซึ่งวิธีการจัดการก็แตกต่างกันไป บางอย่างสกินแคร์ช่วยได้ บางอย่างต้องพึ่งหัตถการ

ในเมลนี้จะอธิบายไล่ให้ 3 step

  1. กลไกสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ 3 ข้อ

  2. วิธีการเช็กเบื้องต้นว่าสาเหตุของเรามาจากไหน

  3. วิธีแก้ปัญหา สกินแคร์-หัตถการแนะนำ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนกดมาอ่านจาก Twitter / X ปกติเพจร่างทองหมื่นปีจะมีส่งคอนเท้นพิเศษให้ทางอีเมลครับ ซึ่งบทความนี้ก็พึ่งส่งไป ใครสนใจกด subscribe ได้เลย (สมาชิกจะสามารถอ่านเนื้อหา Exclusive + เบื้องหลังได้เพิ่ม😉)



ทิปการใช้สกินแคร์-การจัดรูทีน & คอนเทนต์การพัฒนาตนเอง-การเงิน ส่งถึง Inbox คุณทุกอาทิตย์


1️⃣ กลไกสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ

หลักๆ จะขอแบ่งเป็น 3 ข้อใหญ่

  • เม็ดสีถูกผลิตมากผิดปกติ

  • ผิวหนังบาง + เลือดใต้ตาไหลเวียนไม่ดี

  • โครงหน้ายุบ เบ้าตาลึก เกิดเป็นร่องเงา

(1) เม็ดสีถูกผลิตมากผิดปกติ

ปัจจัยนี้มีมาได้จากหลายสาเหตุ โดยหลักๆ จะแบ่งได้เป็น 3 เรื่อง

1.1 กรรมพันธุ์

ข้อนี้แล้วแต่บุญแต่กรรมเลย บางครอบครัวมีลักษณะใต้ตาดำคล้ำเป็นปกติ ตรงนี้แนะนำอย่าเอาตัวเองไปเทียบกับ Beauty Standard มากจนเกินไป

อย่างคนอินเดียจะมีลักษณะขอบตาคล้ำง่ายกว่าชาติอื่นๆ ทั้งจากการผลิตเม็ดสีบริเวณใต้ตามากกว่าปกติและโครงสร้างกระดูกรูปหน้าที่ตรงเบ้าตาจะเป็นหลุมทำให้เห็นเป็นเงาลึก (อ่านสาเหตุข้อที่ 3 เพิ่ม)

1.2 แสงแดด

เหมือนบริเวณอื่นๆ ในร่างกาย ถ้าโดนแสงแดดบ่อยๆ ผิวบริเวณนั้นจะถูกกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีมากขึ้น

ตรงนี้หลายคนพลาด ทากันแดดทั่วหน้า แต่เว้นบริเวณรอบดวงตาเนื่องจากกังวลเรื่องแสบ-ระคายเคือง แนะให้มีกันแดดที่ใช้ฟิลเตอร์กันแดดประเภท Physical (Mineral) 100% ทารอบดวงตาโดยเฉพาะแยก 1 ตัว ประเภทนี้จะอ่อนโยน ไม่แสบ

แนะนำ KA Sensitive (SHP | LZD)

1.3 การอักเสบ

เวลาผิวเราเกิดการอักเสบ มันจะกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีผลิตเม็ดสีเพิ่มขี้น ทำให้ผิวบริเวณนั้นคล้ำดำตามมา

โดยสาเหตุที่ก่อการอักเสบนี่มีเยอะมาก เช่น

  • ร้องไห้ 😭

  • การเสียดสีจากการขยี้ตา / ใช้รีมูฟเวอร์เช็ด/ ถูครีมตรงใต้ตาแรงๆ

  • เวลาเป็นภูมิแพ้บางคนจะมีอาการคันหัวตาและมักจะไปขยี้ตา ทำให้เกิดการอักเสบ

  • ใช้ผลิตภัณฑ์สารแรงๆ ที่ก่อการระคายเคือง

จะเห็นว่าปัจจัยที่ก่อให้เกิดเม็ดสีบริเวณใต้ตาก็จะคล้ายๆ กับการเกิดเม็ดสีบริเวณอื่น ไม่ได้มีอะไรแตกต่างมากเป็นพิเศษ เช่น การอักเสบหลังเกิดสิวก็สามารถทิ้งรอยดำได้เช่นกัน

สามารถอ่านเรื่องกลไกเม็ดสีพิ่มเติมและเอาไปประยุกต์กับการจัดการจุดด่างดำ รอยสิว ปรับผิวสว่างได้

(2) ผิวใต้ตาบางจนเห็นเส้นเลือดชัด + เลือดใต้ตาขยายตัว

ข้อนี้ทุกคนต้องเข้าใจเรื่องโครงสร้างใต้ผิวกันก่อน โดยโครงสร้างผิวหนังประกอบด้วย 3 ชั้นหลัก

  • ชั้นหนังกำพร้า เป็นชั้นที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าสกินแคร์จึงมักทำมาบำรุงชั้นนี้กัน โดยเซลล์เม็ดสีที่พูดกันในข้อ 1 จะถูกผลิตในชั้นนี้

  • ชั้นหนังแท้ ประกอบไปด้วยโปรตีนหลัก 2 ชนิดหลัก คือ คอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยให้ผิวมีความยิดหยุ่น หาก 2 สิ่งนี้ลดลงจะทำให้เกิดริ้วรอยได้

  • ชั้นใต้ผิวหนัง หรือ ชั้นไขมัน

ซึ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวหนังชั้นต่างๆ จะบางลง ยิ่งผิวบริเวณใต้ตาที่บางอยู่แล้ว พอคอลลาเจนใต้ผิวเสื่อม ไขมันเริ่มฝ่อ ผิวมันก็จะยิ่งบางลง ทำให้โครงสร้างภายใต้ผิวตรงนั้นถูกเห็นชัดขึ้น โดยเฉพาะเส้นเลือดที่ประกอบด้วยเม็ดเลือดที่มีสารเม็ดสี พวก Hemoglobin และ Bilirubin ทำให้เกิดเป็นสีคล้ำกว่าผิวบริเวณอื่น

นอกจากผิวจะบางลงตามอายุ รังสีในแสงแดด โดยเฉพาะ UVA และ Blue Light มันยังมีพลังการทะลวงสูง สามารถลงไปทำลายผิวชั้นลึก ทำให้ผิวบางลงได้

สำหรับใครที่ยังวัยรุ่นผิวใต้ตายังแน่นหนา แต่ Lifestyle การใช้ชีวิตก็สามารถส่งผลให้เส้นเลือดใต้ผิวขยายตัวเกิดอาการคล้ำได้

  • เวลาโรคภูมิแพ้กำเริบ ยื่อจมูกจะบวม ทำให้เลือดระบายจากขอบตาล่างลงมาได้ยาก ทำให้เกิดเลือดคลั่งเยอะที่ใต้ตา สีผิวบริเวณนั้นจึงเปลี่ยนไป

  • อดนอน เกิดการบวมใต้ตา

  • สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์

  • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงช่วงตั้งครรภ์

ซึ่งแม้ผิวใต้ตาเรายังจะหนาเมื่อเทียบกับคนแก่ แต่ถ้าเทียบกับผิวบริเวณอื่น มันยังถือว่าบางกว่ามาก ปัญหาตาคล้ำจากการเห็นเส้นเลือดชัดขึ้นจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนแก่อย่างเดียว อย่างคนที่เป็นภูมิแพ้จะเห็นว่าตาดำกันตั้งแต่เด็กเลย

(3) โครงหน้ายุบ เบ้าตาโบ๋ เกิดเป็นร่องเงา

เวลาเราอายุเพิ่มขึ้น มันไม่ได้มีแต่ผิวเราที่เสื่อม แต่ทุกอย่างมันเสื่อมหมด ไล่ตั้งแต่ด้านล่างขึ้นมาด้านบน

  • กระดูก

  • พังผืด

  • กล้ามเนื้อ

  • ชั้นไขมัน

  • ชั้นผิวหนัง - เมื่อผิวบางลงจะทำให้ตาคล้ำจากการเห็นเส้นเลือดชัดขึ้น

สำหรับชั้นที่อยู่ลึกลงไป เวลาเราอายุมาก โครงสร้างมันจะเริ่มยุบ

  • โครงสร้างกระดูก-กะโหลกกร่อน ทำให้เบ้าตาจะกว้างลึกขึ้น + โหนกแก้มแบนลงทำให้ผิวบริเวณตาไม่มีไม้ค้ำยัน

  • ไขมันในผิวฝ่อลง พอไขมันช่วงใต้ตาหาย ตาจะโบ๋ลึกขึ้น นอกจากนี้ชั้นไขมันที่บางลงก็ทำให้เส้นเลือดที่อยู่ข้างใต้ถูกเห็นได้ชัดขึ้นอีก

ข้อนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นสาเหตุที่สกินแคร์ช่วยไม่ได้ ต้องพึ่งหัตถการอย่างเดียว

ตรงนี้เปาก็มีปัญหาเหมือนกัน ปีที่แล้วก็ไปให้คุณหมอช่วยหัตถการมา

2️⃣ วิธีการเช็กสาเหตุปัญหาใต้ตาดำ

จะเห็นว่าปัญหาใต้ตาดำ มันมีมาจาก 3 สาเหตุหลัก ดังนั้นเราต้องวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาให้ได้ก่อน เราถึงจึงเลือกเครื่องมือมาช่วยได้เหมาะสม

  • เม็ดสี

  • ผิวบางจน-เส้นเลือด

  • โครงสร้างหน้ายุบ

โดยให้เช็กด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  1. ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งดึงผิวหนังใต้ตาออกมาเบาๆ 30 วินาที

    1. ถ้าขณะที่ดึงสีคล้ำติดขึ้นมากับผิวหนัง - อาจเกิดจากเม็ดสี

    2. ถ้าขณะที่ดึงใต้ตาดูจางลง - อาจเกิดจากผิวหนังบางจนเห็นความคลั่งของเส้นเลือดชัด

      The Pinch Test

      The Pinch Test

  2. หลังปล่อยให้สังเกตอีกนิด

    1. ไม่ดูจางลงเลย - อาจเกิดจากเม็ดสี

    2. ดูจางลงก่อนที่จะกลับมาเข้ม - อาจเกิดจากผิวหนังบาง + เส้นเลือด

ส่วนเรื่องโครงหน้ากระดูกยุบ ตาโบ๋ มีปัญหาเบ้าตาลึก อันนี้ต้องให้คุณหมอประเมินนะ เราไม่ได้เรียนด้านใบหน้ากันมา บางคนโครงหน้าเป็นแบบนี้อยู่แล้ว บางคนโครงหน้าเริ่มกร่อนมาเป็นตอนอายุมากก็มี

3️⃣ วิธีแก้ปัญหา สกินแคร์-หัตถการแนะนำ

พอเราแยกได้คร่าวๆ แล้วว่าปัญหาเรามาจากอะไร ทีนี้การเลือกสกินแคร์-อายครีมก็จะง่ายขึ้น แต่ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วหลายคนมักมีหลายสาเหตุร่วมกัน ทำให้การดูแลยากขึ้นได้

สาเหตุ

ตัวอย่างสกินแคร์

ตัวอย่างหัตถการ

เม็ดสี

ส่วนผสมกลุ่มไวท์เทนนิ่งยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น Niacinamide, Arbutin, Koji Acid, Tranexamic Acid, Resorcinol Derivatives

ส่วนผสมกลุ่มผลัดผิวเอาเม็ดสีเก่าออก แต่ต้องใช้อย่างระวังมากๆ และเลือกตัวที่อ่อนโยน

ส่วนใครผิวระคายเคืองให้ใช้ส่วนผสมกลุ่มลดการอักเสบทาเพิ่มได้

เลเซอร์กลุ่มรักษาเม็ดสี เช่น Picosecond laser หรือ Q-Switched laser

ผิวใต้ตาบาง

ส่วนผสมกลุ่ม Anti-aging ชะลอวัย กระตุ้นคอลลาเจน เช่น Retinoid, Peptides, Vitamin C, Epidermal growth factor (EGF)

กลุ่มนี้นอกจากเรื่องตาคล้ำยังช่วยเรื่องริ้วรอยในตัว

ฉีดฟิลเลอร์เนื้อบางใต้ตา (นี่ทำมาปีที่แล้ว) หรือ ใครกังวลลองดู Filorga ได้ จะเป็น Hyaluronic Acid เหมือนฟิลเลอร์ แต่จะเป็นชนิด Non Cross-Linked และอยู่แค่สั้นๆ


เครื่องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบดวงตา เช่น Ulthera หรือ HIFU

เส้นเลือด

ส่วนผสมลดการบวม เพิ่มการไหลเวียนของเลือด เช่น Caffein (เจอบ่อยสุด), Vitamin K, Hesperidin, Horse Chestnut Extract, Ginseng (โสม), Gingko (แปะก๊วย)

เลเซอร์กลุ่ม Vascular Laser เช่น Long pulsed Nd-Yag laser

ใช้พวกช้อนแช่เย็น หรือ Cooling applicator เย็นๆ มาประคบลดบวมได้ชั่วคราว

โครงหน้ายุบ

-

ฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็งเสริมโครงหน้า (นี่ทำมาปีที่แล้ว)

สำหรับการทาจริงๆ แล้วเราสามารถเลือกใช้สกินแคร์ปกติเอามาทาที่ใต้ตาได้ มันไม่ได้มีข้อห้าม แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการระคายเคือง ซึ่งอายครีมส่วนใหญ่จะทำมาอ่อนโยนเป็นพิเศษทำให้ใช้บริเวณใต้ตาง่าย

  • ใครไม่มีงบก็ให้หาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมหลากหลายครอบคลุมแก้ปัญหาตามตารางด้านบน

  • ใครมีงบและไม่อยากวุ่นวายก็ใช้อายครีมได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่อายครีมจะทำมาครอบคลุมหลากหลายปัญหาในหนึ่งตัว นี่ไม่อยากวุ่นวายก็มีใช้พวกอายครีมไปเลย ง่ายๆ

NO SR
อายครีมที่ชอบและแนะนำ

ตอนนี้ใช้อยู่ 3 ตัว ใช้ Loreal / ISDIN สลับๆ กันแล้วปิดด้วย Eucerin ที่เด่นเรื่องเม็ดสีและมีใส่สารเม็ดสีมาช่วยปกปิดเป็นคอนซีลเลอร์เบาๆ

ส่วน Shiseido หมดไปละ แต่อยากแนะนำมันดีจริงได้ทั้งเรื่องเม็ดสี + ผิวใต้ตาบาง ยิ่งใครเริ่มมีอายุเอามาทาคอ ทาร่องแก้มได้ด้วยนะ แต่แพงหน่อย

ISDIN Vital Eyes

ISDIN Vital Eyes

เด่นเรื่อง Anti-aging ป้องกันผิวใต้ตาแก่-บาง-ริ้วรอยรอบดวงตา แล้วมี Caffeine มาช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด นี่ชอบนอนดึก/ดื่มแล้วตาจะบวมๆ เลยจะมีสารกลุ่มนี้ดูแลตาตลอด

อีกเรื่องที่ชอบคือมี Melatonin ช่วยฟื้นฟูผิว กู้ความโทรมรอบตาและลดการอักเสบระคายเคืองได้ดีมาก

ส่วนเรื่องเม็ดสีจะไม่ได้เด่นเท่าตัวที่ทำมาจัดการเม็ดสีโดยเฉพาะอย่าง Eucerin นี่เลยชอบใช้คู่กัน

เนื้อจะเป็นครีมเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้นมากสุด

ข้อเสียคือกลิ่นอุ฿มาก

AFF: SHP | LZD

Eucerin Spotless Eye

Eucerin Spotless Eye

ตัวนี้เด่นจัดการเม็ดสีสุดด้วย Thiamidol สารจัดการเม็ดสีตัวท๊อปของตลาด + Licochalcone A ลดอักเสบ แล้วมี Caffeine มาช่วยเรื่องหลอดเลือด

ที่ชอบอีกเรื่องคือมีส่วนผสมทำสีใส่มาช่วยปกปิดตาดำได้ในตัว ฟีลคอนซีลเลอร์เบาๆ

ส่วนเนื้อจะเบา ไม่ได้หนัก ให้ความชุ่มชื้นไม่สูงมาก

AFF: SHP | LZD

L'oreal Revitalift Filler Eye

L'oreal Revitalift Filler Eye

ตัวนี้จะเน้นบำรุงโดยรวม เด่นโดดไปด้านดูแลริ้วรอยแบบอ่อนโยน

  • Pro-Xylane กระตุ้นคอลลาเจน

  • Syn-Ake ทำงานคล้าย botox ลดการหดของกล้ามเนื้อ

แล้วมีไฮยามาเพิ่มความชุ่มชื้น / Caffeine ลดบวม ดูแลหลอดเลือด / Vitamin C ดูเรื่องความกระจ่างใสเม็ดสีให้ครบ

Shiseido Vital Perfection

สารชูโรงคือ Pure Retinol มาช่วยเรื่องชะลอวัย ช่วยผิวใต้ตาให้หนาแน่นกระชับ + ริ้วรอย แล้วมี 4MSK สารเอกสิทธิ์ของ Shiseido ที่ผ่านการรับรองถึงระดับ Quasi-drug หมวดไวท์เท่นนิ่งของญี่ปุ่นใส่มาช่วยเรื่องเม็ดสี

ตัวนี้ทำมาให้เน้นทาเฉพาะจุด ไม่ใช่เฉพาะแค่ตา แต่ได้หมดทั้งร่องหน้าผาก ร่องแก้ม รอบดวงตา เส้นริ้วรอย รอยย่นที่คอ

ตัวครีมจะเนื้อแน่นรองจาก ISDIN ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก

AFF: SHP | LZD

👑 สรุป

จะเห็นว่าปัญหาใต้ตาดำ มันมีมาจากหลายสาเหตุ เราต้องเริ่มจากวิเคราะห์สาเหตุก่อนแล้วถึงจะเลือกเครื่องมือมาช่วยได้ตรงกับปัญหา

ซึ่งบางคนมีหลายสาเหตุร่วมกัน ทำให้ดูแลยาก อย่าไปโดนการตลาดหลอกว่าจะมีอายครีมไหน ช่วยให้ตาหายคล้ำได้ภายใน 7 วัน 14 วัน และบางอย่างการทาก็ไม่ช่วย ทาไปเป็น 10 ปี กระตุ้นคอลลาเจนไปมันก็ไม่พอ บางอย่างมันต้องพึ่งหัตถการจริงๆ สกินแคร์มันมีข้อจำกัดของมัน

สำหรับการทาครีมส่วนตัวอยากแนะนำให้ทุกคนมองเป็นการคงตาเราไม่ให้แย่ลง แนะนำให้เลือกตัวที่มีส่วนผสมหลากหลาย ครอบคลุมตามตารางสรุป

ไม่มีงบก็ใช้สกินแคร์ทาหน้านี่แหละ แค่ลำบากเลือกหน่อย ส่วนใครมีงบก็ใช้ตามที่แนะนำได้ พวกนี้ส่วนผสมมันทำมา target เรื่องใต้ตาให้โดยเฉพาะ ไม่ต้องไปพลิกดูส่วนผสมเอง



ทิปการใช้สกินแคร์-การจัดรูทีน & คอนเทนต์การพัฒนาตนเอง-การเงิน ส่งถึง Inbox คุณทุกอาทิตย์


DISCLAIMER: เพจ @RangThong10000 และ Newsletter “ร่างทองไปกับเปา” เป็นการแชร์ข้อมูลในหัวข้อที่ผมมีความสนใจ โดยอิงจากประสบการณ์ส่วนตัว ประกอบกับการค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลต่างๆ อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ทั้งหมดไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ คำแนะนำทางการเงิน ไม่สามารถทดแทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้ และ ผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคลและการใช้ประจำอย่างต่อเนื่อง เครื่องสำอางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสีผิวตามธรรมชาติ ระบบการทำงานและ/หรือโครงสร้างของร่างกายของแต่ละบุคคลได้

Reply

or to participate.