วิธีกําจัดสิวเสี้ยน สิวเสี้ยนคืออะไร รู้ไหมว่ามันไม่ใช่สิว

👋 สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาเขียนเมลแล้ว ขอเริ่มจากเรื่องที่คนมีปัญหาและถามกันมาบ่อยสุดๆ ก่อนเลย

เพื่อนๆ อาจแปลกใจที่อ่านหัวอีเมลแล้วนี่บอกว่าสิวเสี้ยนไม่ใช่สิว แต่ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนไม่รู้กันเยอะมาก

เดี๋ยวในเมลนี้เปาจะมาสรุปให้ทุกคนเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดดำๆ บนจมูก และปิดด้วยวิธีการจัดการให้จมูกใสกัน (ปสก.ตรง เพราะนี่ก็เป็นมาก่อน🥲)

ก่อนอื่นทุกคนต้องรู้จักกับน้องสิวเสี้ยนกันก่อนว่ามันมาจากอะไร ถึงจะจัดการได้ถูก

โดยต้นตอหลักๆ มันจะมี 2 สาเหตุ ซึ่งวิธีการดูแลก็ต้องดูแลตามสาเหตุของมัน

1. Sebaceous filaments (เส้นใยไขมันในรูขุมขน) » ลดการเกาะตัวของเซลล์ผิว ละลายไขมัน

2. Trichostasis spinulosa (กระจุกขนอ่อนในรูขุมขน) » กำจัดขน

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนกดมาอ่านจาก Twitter / X แล้วงงว่าอะไรคืออีเมล ปกติเพจร่างทองหมื่นปีจะมีส่งคอนเท้นพิเศษให้ทางอีเมลครับ ซึ่งบทความนี้ก็พึ่งส่งไป ใครสนใจกด subscribe ได้เลย (ตอนนี้ยังสมัครฟรี 😉)

สาเหตุที่ 1
👹 Sebaceous Filaments เส้นใยไขมัน คืออะไร

ใครคิดภาพไม่ออกให้นึกถึง

• รูขุมขน = สายยางฉีดน้ำ

• ไขมัน-น้ำมัน = น้ำ

• ต่อมไขมัน = กรมประปาที่คอยผลิตน้ำและลำเลียงมาทางสายยางให้เราเอามารดน้ำต้นไม้ (ผิว) ให้มีความชุ่มชื้น

ซึ่งบางทีน้ำจะออกมาจากสายยางไม่หมด ค้างอยู่ด้านใน ซึ่งพอเวลาผ่านไปจะเกิดเป็นตะไคร่ พอเราไปบีบไล่สายยาง ตะไคร่พวกนี้ก็จะออกมา ซึ่งตรงนี้ก็คือ Sebaceous Filaments หรือเส้นไยไขมันนั่นเอง

ลักษณะของ Sebaceous Filaments

• เป็นสีเหลืองอ่อนถึงขาวอมเหลือง ใครเคยบีบจะเห็นเป็นเส้นขาวๆ เหลืองๆ ออกมา

• เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ได้มีสาเหตุเฉพาะ

• มีอยู่ในทุกคนในระดับหนึ่ง แต่เห็นได้ชัดและมีเยอะในคนที่มีผิวมัน เนื่องจากต่อมไขมันทำงานหนัก

• พบได้บ่อยในบริเวณที่มีต่อมไขมันทำงานหนัก เช่น จมูก คาง

สาเหตุที่ 1
👀 วิธีจัดการ Sebaceous Filaments

ไม่สามารถกำจัดได้อย่างถาวร แต่การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยลดลักษณะที่ปรากฏ ช่วยผิวให้จมูกดูเรียบเนียนใสขึ้นได้

1. ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน

   • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ให้นวดล้าง 40 – 60 วินาที ไม่ใช่แค่กวักน้ำเข้าหน้า 5 – 10 วินาที

   • ใครทากันแดดกันน้ำ เกาะผิวดีๆ หรือแต่งหน้า อย่าลืม ล้างหน้าด้วยวิธี Double Cleansing (สอนล้างหน้า อ่าน)
     

2. ใช้สกินแคร์เร่งวงจรผลัดเซลล์ผิว

   • ผลัดผิวเพื่อลดการสะสมของสิ่งอุดตันในรูขุมขน เช่น ส่วนผสมกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid กลุ่ม BHA) หรือ กรดไลโปไฮดรอกซี (LHA) (เจาะลึกส่วนผสมกลุ่มผลัดผิว อ่าน)

   • ใช้สกินแคร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่จากด้านล่าง ปรับการสร้างเซลล์ผิวให้เป็นปกติ ด้วยอนุพันธ์ Vitamin A เช่น Retinol หรือ Retinaldehyde (วิธีการเริ่มใช้ อ่าน)

   • ใครที่ใช้ยาสิวที่มีกลไกผลัดผิวอยู่ เช่น กรดวิตามินเอ (Tretinoin) หรือ Benzoyl peroxide พวกนี้จะช่วยอยู่แล้ว อาจไม่ต้องหาสกินแคร์มาเพิ่มนะ
     

   ข้อควรระวัง: สารในกลุ่มนี้อาจก่อการระคายเคืองได้ หากกังวลสามารถทาเฉพาะบริเวณจมูกเพื่อลดผลข้างเคียงได้ (วิธีการใช้สารข้างต้นด้วยกัน อ่าน)
   

3. ลดความมันของผิว

   • สำหรับคนที่ผิวมันสามารถใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยคุมมันเพิ่มได้ เช่น Zinc, Niacinamide, L-carnitine, Silica และ โคลน

   • ส่วนผสมในข้อ 2 ก็ช่วยเรื่องคุมมัน ถ้าพอแล้วไม่ต้องใช้ลดมันเพิ่ม

   • ที่สำคัญคืออย่าเอาแต่ดึงน้ำมันออกจากผิวจนผิวแห้ง เพราะถ้าผิวขาดน้ำมันมากเกินไป กลไกของผิวจะตอบสนองสู้โดยการผลิตน้ำมันมากขึ้นมาชดเชย ทำให้ผิวมันกว่าเดิมได้ (เคยเขียนเธรดเรื่องนี้ไปแล้ว อ่าน)

อย่างที่บอกว่ามันมาจากกลไกธรรมชาติของผิว หากต้องการให้จมูกใสอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องดูแลสม่ำเสมอ มีส่วนผสมพวกนี้ในรูทีนเพื่อคุมไปเรื่อยๆ หยุดคุมเมื่อไหรมันจะกลับมา

สาเหตุที่ 2
👹 Trichostasis Spinulosa กระจุกขนอ่อนคืออะไร?

Trichostasis spinulosa เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มขนเล็กๆ จำนวนมากมากระจุกอยู่ในรูขุมขนเดียวกัน ทำให้เกิดลักษณะคล้ายหนามเล็ก ๆ สีดำยื่นออกมาจากผิว

• ในคนที่เป็น trichostasis spinulosa อาจมีขนได้ถึง 25 เส้นในหนึ่งรูขุมขน

• ขนจะอัดแน่นและยึดเกาะกับสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ไขมัน เคราติน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

• ส่งผลให้เกิดจุดสีดำหรือติ่งแหลมคล้ายหนามยื่นออกมาจากรูขุมขน

สาเหตุที่ 2
👀 วิธีจัดการ Trichostasis Spinulosa

สำหรับสาเหตุเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่ามันเกิดจากอะไร ดังนั้นเราจึงไม่สามารถแก้ไขได้ถาวร

จะเหมือนกับ Sebaceous Filaments ด้านบนที่ต้องคุมและดูแลอย่างต่อเนื่อง

1. การรักษาโดยแพทย์ผิวหนัง / ผู้เชี่ยวชาญ

   • ใช้เลเซอร์ / แสงบางชนิดเพื่อกำจัดขน เช่น IPL (Intense Pulse Light) หรือ เลเซอร์กำจัดขนต่างๆ

   • กดด้วยที่กดสิวเพื่อกำจัดขนที่ติดอยู่ออกโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ควรใช้มือบีบเอง

2. การรักษาด้วยตนเองที่บ้าน

   • แผ่นลอกสิว: อันนี้แล้วแต่คน มักถูกวิจารณ์ แต่ก็เป็นวิธีที่ดึงกลุ่มขนเล็ก ๆ ให้ออกมาได้ แต่การใช้บ่อยเกินไปจะทำร้ายผิวได้ เช่น เกิดการอักเสบ หรือ อาการแพ้กาวในบางคน (ส่วนตัวไม่ทำ)

   • การผลัดเซลล์ผิวและการเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ด้วย BHA, LHA หรือ Retinoids เหมือนที่ใช้ใน Sebaceous Filaments

     แม้ว่า trichostasis spinulosa จะเกี่ยวกับขนเป็นหลัก แต่การใช้สารกลุ่มนี้ก็มีประโยชน์เนื่องจากมันสามารถซึมเข้าสู่รูขุมขน ลดการสะสมของสิ่งอุดตันในรูขุมขน ที่เส้นขนจะไปจับได้

👑 สรุป

จุดดำๆ ตุ่มบนจมูก ที่เรียกกันว่าสิวเสี้ยนมักไม่ใช่สิว ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดแน่ชัด

ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีชื่อเรียกต่างกัน แต่วิธีการดูแลหรือสิ่งที่เราทำเองเพื่อให้ผิวจมูกดูใสขึ้นก็มีวิธีคล้ายกัน

ในคนที่เป็นสิวส่วนใหญ่จะต้องใช้สกินแคร์ และ/หรือ ยาทาที่มีกลไกเร่งวงจรผลัดผิวอยู่แล้ว ซึ่งกลไกนี้ก็สามารถช่วยได้ทั้ง Sebaceous Filaments (เส้นไยไขมัน) และ Trichostasis spinulosa (เส้นขนกระจุก) ตามที่อธิบายไปด้านบน

1. กลุ่ม Hydroxy Acid เช่น BHA, AHA, LHA, PHA

2. กลุ่ม Retinoids เช่น Retinal และ Retinol

3. ยาสิว เช่น กรดวิตามินเอ (Tretinoin) หรือ Benzoyl peroxide

ส่วนเส้นขนการทาไม่ค่อยช่วยขนาดนั้น ส่วนตัวเคยไปทำเลเซอร์ยิงๆ ก็เห็นผล หายวับจมูกใสทันที แต่มันก็กลับมาใหม่ ช่วงหลังเลยไม่ได้ไปทำ ใช้แค่การทาสารกลุ่ม Hydroxy Acid และ กลุ่ม Retinoids อย่างต่อเนื่องตอนนี้จมูกก็ใสมากแล้ว

ที่สำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ ในโลกสกินแคร์ อะไรเคลมว่าเร็วให้เอ๊ะไว้ก่อนเลย

สำหรับสมาชิกเท่านั้น โปรดเข้าสู่ระบบด้วยอีเมล
🧴 สกินแคร์ตามส่วนผสมที่แนะนำ

กลุ่ม Hydroxy Acid สามารถผลัดผิวได้หมด ต่างกันที่เรื่องเสริมอื่นๆ
กลุ่ม Retinoid เลือกตามระดับความแรง

กดชื่อสกินแคร์เพื่ออ่าน Full Review

หากคุณกดซื้อผ่าน Affiliate เปาจะได้รับค่าแนะนำเป็นค่าขนมเล็กน้อย โดยที่คุณไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ขอบคุณครับ